วิธีเลือกซื้อปลาหมึกสด
ปลาหมึก เป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหารของคนไทยและคนทั่วโลก เนื่องจากเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้รสสัมผัสที่ดี
มีความกรุบกรอบและความหนึบ มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอเมก้า3และไอโอดีน
แต่การจะได้หมึกสดมารับประทานนั้น ต้องมีเทคนิคการเลือกซื้อ
ไม่เช่นนั้นเราอาจจะได้หมึกที่เก่า เนื้อเริ่มเปื่อยหรือมีกลิ่น
ไม่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ วันนี้เรามีวิธีเลือกซื้อปลาหมึกสดมาฝากกันครับ
ปลาหมึกสด
วิธีเลือกซื้อปลาหมึกสด
ปลาหมึกที่นิยมรับประทานมีอยู่หลายชนิด เช่น หมึกกล้วย หมึกกระดอง และหมึกยักษ์ ปลาหมึกทั้งสามชนิดมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันก็จริง แต่วิธีการเลือกซื้อคล้ายกัน ดังนี้
- ตาหมึกต้องใส ไม่ขุ่น เห็นตาดำด้านในได้อย่างชัดเจน
- หัวและลำตัวของหมึกต้องติดกันแน่น ไม่หลุดรุ่ย และต้องดึงออกจากกันได้ยาก
- เนื้อปลาหมึกต้องแน่น ไม่เละ เมื่อทดลองกดดู ต้องคืนตัวได้ทันที
- เยื่อหุ้มตัวหมึกต้องไม่หลุดรุ่ย ไม่ควรซื้อปลาหมึกที่ลอกเยื้อนี้ออกแล้ว
- หนวดปลาหมึกควรมีสภาพสมบูรณ์ แข็งและไม่เปื่อยยุ่ย
- เมื่อทดลองดมกลิ่น ต้องมีกลิ่นคาวตามธรรมชาติ ไม่เหม็นเน่า และไม่มีกลิ่นสารเคมี
- ถุงน้ำหมึกต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด
ปลาหมึกที่นิยมรับประทานมีอยู่หลายชนิด เช่น หมึกกล้วย หมึกกระดอง และหมึกยักษ์ ปลาหมึกทั้งสามชนิดมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันก็จริง แต่วิธีการเลือกซื้อคล้ายกัน ดังนี้
- ตาหมึกต้องใส ไม่ขุ่น เห็นตาดำด้านในได้อย่างชัดเจน
- หัวและลำตัวของหมึกต้องติดกันแน่น ไม่หลุดรุ่ย และต้องดึงออกจากกันได้ยาก
- เนื้อปลาหมึกต้องแน่น ไม่เละ เมื่อทดลองกดดู ต้องคืนตัวได้ทันที
- เยื่อหุ้มตัวหมึกต้องไม่หลุดรุ่ย ไม่ควรซื้อปลาหมึกที่ลอกเยื้อนี้ออกแล้ว
- หนวดปลาหมึกควรมีสภาพสมบูรณ์ แข็งและไม่เปื่อยยุ่ย
- เมื่อทดลองดมกลิ่น ต้องมีกลิ่นคาวตามธรรมชาติ ไม่เหม็นเน่า และไม่มีกลิ่นสารเคมี
- ถุงน้ำหมึกต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด
ปลาหมึกสดนั้นมีราคาค่อนข้างแพง
ดังนั้นก่อนซื้อมาประกอบอาหารเราควรศึกษาวิธีเลือกซื้อปลาหมึกสดก่อนที่จะซื้อ
เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้หมึกที่สดจริงๆ ไม่โดนแม่ค้าต้มเอา
หรือไม่ก็ซื้อหมึกเน่าๆมาทำอาหาร นอกจากเสียเงิน กินไม่ได้ แล้วยังเจ็บใจตัวเองอีกด้วย ^ ^